3 products






CD Foliage Dairy III : Passakorn Morasilpin.
Regular price 399.00 ฿ Save Liquid error (product-template line 120): -Infinity%รายละเอียดสินค้า
CD อัลบั้ม Foliage diary 3 : From the veins of the leaf
ศิลปิน : ภาสกร โมระศิลปิน
บันทึกฉบับที่ 3 : จากเส้นใยของใบไม้
ภาสกร โมระศิลปิน (มิ้นท์) นักแซ็กโซโฟนแจ๊สฝีมือจัดจ้าน เจ้าของอัลบั้มแรก My Diary ซึ่งได้รับรางวัลคมชัดลึกอวอร์ดส จากนสพ.คมชัดลึก และอัลบั้มที่สอง The Diary II ซึ่งได้รับรางวัลสีสันอวอร์ดส จากนิตยสารสีสัน จนถึงอัลบั้มลำดับ 3 Foliage diary 3 ชุดนี้ที่ตกผลึกจากแนวความคิด realization จนเพลง Lantom flower ได้รับรางวัลเพลงยอดเยี่ยมจากสีสันอะวอร์ดส อีกด้วย
บทเพลงในอัลบั้มนี้ได้ประพันธ์ขึ้นโดใช้แนวทางการผสมผสานจากหลากหลายวัฒนธรรมดนตรีที่มีวิถีที่แตกต่างกัน อาทิ ดนตรีไทย, Jazz, Pop, Rock, Latin รวมถึงการใช้ Effects และ Synthesizer เข้าด้วยกัน มากน้อยแล้วแต่เนื้อหาและความหมายของในแต่ละบทเพลงนั้นๆ
อีกนัยหนึ่งเพื่อต้องการให้ตระหนักว่าความแตกต่างกันนั้น ไม่ได้นำมาซึ่งความแตกแยกเสมอไป
แต่ยังสามารถนำมาซึ่งสิ่งที่สวยงามและสร้างสรรค์ได้มากมาย ดุจดั่งเส้นใยของใบไม้ที่แตกต่างกันนั้น
ก็ได้สรรค์สร้างความสวยงามให้แก่ใบไม้ใบนั้นเฉกเช่นเดียวกัน ปรารถนาเป็นอย่างยิ่งว่าบทเพลงในอัลบั้มนี้จะช่วยให้ตระหนัก ถึงคุณค่าและความสวยงามของดนตรีในทุกๆแขนงที่มีอยู่ในโลกใบนี้ไม่มากก็น้อย
- Traveleaf...จินตนาการจากใบไม้ใบหนึ่งที่ปลิวพัดล่องลอยไปในยังสถานที่ต่างๆผ่านการผจญภัยมากมายคล้ายกับมนุษย์ที่ต้องผ่านหลากหลายประสบการณ์และเรื่องราวมากมายในช่วงชีวิต
- Lines of Mountains…ข้าพเจ้าได้ประพันธ์บทเพลงนี้ขึ้นจากเสียงในจินตนาการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทิวทัศน์ธรรมชาติของภูเขา วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผู้คน ขนบธรรมเนียมประเพณีที่แตกต่าง ซึ่งเป็นความสวยงามที่หาได้ยากยิ่งในโลกปัจจุบันที่มีเส้นทางการดำเนินชีวิตตามแต่ค่านิยมจะเป็นตัวกำหนด
- Lantom Flowers…จากความหมายของดอกไม้ชนิดนี้ซึ่งมีความหมายว่า เศร้าใจ เสียใจ ทุกข์ใจ
ข้าพเจ้าจึงได้ประพันธ์บทเพลงนี้ขึ้นเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปของเพลงไทยในยุคปัจจุบัน Lantom Flowers เป็นบทเพลงเดียวในอัลบั้มชุดนี้ที่ไม่ได้มีความเป็นไทยเลยแม้แต่น้อย นอกจากชื่อของบทเพลงที่เป็นภาษาไทย
- Northern Charms...ได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรีล้านนาซึ่งมีวิถีของจังหวะ line และ accent ที่มีความไพเราะและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- Lonely Wind...ได้รับแรงบันดาลใจจาก ปี่ใน แม้จะไม่ได้เป็นเครื่องดนตรีที่นิยมและรู้จักแพร่หลายเท่ากับเครื่องดนตรีชนิดอื่น แต่ปี่ในนั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่มีความพิศดารและซับซ้อนมากที่สุดในบรรดาเครื่องดนตรีไทย
บทเพลงนี้ผสมผสานระหว่างวิถีของปี่ในซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักกับแนวดนตรีร็อคซึ่งเป็นหนึ่งในแนวดนตรีที่มีผู้นิยมเสพย์มากที่สุดในโลก
- Pentavatar...ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง มุล่ง ซึ่งเป็นบทเพลงที่ต้องบรรเลงต่อเนื่องโดยไม่มีช่วงหยุดระหว่างเพลงคล้ายคลึงกับ
บทเพลง ของ Nicolo Paganini แม้จะมีจำนวนโน๊ตที่ใช้ในการบรรเลงน้อยกว่าแต่ก็แสดงให้เห็นถึงวิถีของดนตรีไทยที่ไม่ได้ล้าหลังและด้อยไปกว่าแนวดนตรีชนิดอื่นเลย
- Child Song...ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง Age of Worry ของ John Mayer ผสมผสานกับ melody ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากลายไทย
Foliage diary 3 บรรเลงดนตรีบันทึกเสียงสด LIVE RECORDING พร้อมกัน โดย
ภาสกร โมระศิลปิน Sax
สร้างสรรค์ วัฒนกุล Keyboard
อรรถสิทธิ์ ดอกแก้ว E.guitar
เกษมสมัย วงศ์ชยาศิลป์ E.Bass
ปอง นครชัย Drum & Percussion




CD The Diary II : Passakorn Morasilpin
Regular price 399.00 ฿ Save Liquid error (product-template line 120): -Infinity%CD อัลบั้ม : The Diary II น้ำตา ความหวัง ท้องทะเล แสงดาว
ศิลปิน : ภาสกร โมระศิลปิน
ผลงานลำดับที่ 2 ของ Passakorn Morasilpin ได้รับรางวัลเพลงบรรเลงยอดเยี่ยมจากสีสันอะวอร์ดส
The Diary II ถือเป็นบันทึกฉบับที่ 2 ของ ภาสกร โมระศิลปิน (มิ้นท์) มือแซ็กรุ่นใหม่ฝีมือจัดจ้าน ที่ฝึกปรือฝีมือมาจนได้เป็นมือแซ็กให้กับวงอินฟินนิตี้
จนกระทั่งมิ้นท์ได้ออกผลงานเพลงอัลบั้มแรก My Diary จนได้คว้าอัลบั้มเพลงบรรเลงยอดเยี่ยมจากรางวัลคมชัดลึกอวอร์ดส เมื่อปี 56 ที่ผ่านมา
ถือเป็นงานเพลงที่มีคอนเซปต่อเนื่อง และพิถีพิถันในการบันทึกเสียงในแบบ Live Recording เหมือนเดิม
The Diary II นี้ นอกจาก มิ้นท์ ภาสกร จะรับหน้าที่ Soprano Saxophone และ Tenor Saxophone แล้ว
ทีมดนตรีจากเพื่อนๆใน My Diary ยังมากันครบ ไม่ว่าจะเป็น
Piano&Keyboards - ซอล สร้างสรรค์ วัฒนกุล
Electric Bass - อัฐ วารินทร์ ถาธัญ
Drums&Electronic - สำลี สถิตพร สมพงษ์
Acoustic & Electric Guitar - Podchara Kumchaisakul
Vocal - แนท บัณฑิตา ประชามอญ
ยังได้เชิญ พี่ซี้ด นรเศรษฐ หมัดคง มาฝากเสียงไว้อีกด้วย
อัลบั้มชุดนี้จัดทำขึ้นเพื่ออุทิศและเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งเผยแพร่วัฒนธรรมดนตรีไทย
ทั้งภาคกลางและภาคใต้ในรูปแบบ World Music ผสมผสานระหว่างเครื่องดนตรีสากลในวิถีการเล่นแบบ Jazz
และเครื่องดนตรีไทย ผสมด้วยกลองแขก กลองทัด และ ฉิ่ง โดยใช้หน้าทับแบบดั้งเดิม และใช้การร้องแบบไทยเดิม
รวมทั้งใช้เนื้อเพลงเป็นภาษายาวี ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของชาว ไทย-มุสลิม ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
หวังว่าบทเพลงใน The Diary II นี้จะช่วยเป็นกำลังใจไม่มากก็น้อยกับทุกท่านที่ประสบกับปัญหาและการสูญเสียให้มีกำลังใจก้าวเดินต่อไป...

Passakorn Morasilpin “My Diary”
Regular price 399.00 ฿ Save Liquid error (product-template line 120): -Infinity%ดนตรีแจ๊ส แซ็กกระเส่า...เร่าร้อน เจืออ่อนหวาน จาก มิ้นท์
รายละเอียดสินค้า
CD album : My Diary (Live Recording)
artist : Passakorn "Mint" Morasilpin
track list :
01 Slide 7.52
02 One note samba 6.01
03 The shadow in the darkness 8.44
04 Nok khamin 6.32
05 Sandglass 6.36
06 Time in the bottle 8.29
07 Slide (cover) 2.14
musicians studio :
tenor sax by Passakorn Morasilpin
keyboards by Sangsan Wattanakun
electric bass by Warin Thatan
drums & electronic pad by Satitporn Somphong
vocal by Buntita Prachamorn
records at Creative Music Studio
Album Review by อนันต์ ลือประดิษฐ์ กูรูแจ๊สจากจุดประกาย กรุงเทพฯธุรกิจ
แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ ค่ายเพลงใหญ่ต่างหันไปสนใจธุรกิจใหม่ โดยปล่อยวงการเพลงทิ้งไว้อย่างไม่สนใจ แต่ทัพศิลปินฝีมือดีรุ่นหลังก็ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านเลยไป โดยไม่จำเป็นต้องศิโรราบต่อทุนบันเทิง พวกเขาเลือกที่จะผลิตผลงานเอง โปรดิวซ์และบันทึกเสียงเอง ด้วยพลังสร้างสรรค์ที่มีอยู่อย่างมากล้น
My Diary ของ มินท์ ภาสกร โมระศิลปิน เป็นตัวอย่างของงานเพลงสร้างสรรค์ โดยฝีมือของศิลปินไทยรุ่นใหม่ ซึ่งสวนทางกับสภาพอันอับเฉาของอุตสาหกรรมเพลงไทยวันนี้เป็นอย่างยิ่ง
มินท์ ภาสกร อาจจะเป็นชื่อใหม่ในสายตาของผู้คนภายนอก แต่ในแวดวงแจ๊สต่างรู้จักเขามานานพอสมควร ในฐานะดาวรุ่ง saxophone ที่ฉายแววความโดดเด่นในชั้นเชิงทางดนตรี ตั้งแต่ปีแรกๆ ที่เขาเข้าศึกษาที่คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรเลยด้วยซ้ำ ผ่านเวทีประกวดและคว้ารางวัลมาบ่อยครั้ง หลังจากฝึกฝนวิทยายุทธ ร่ายลำนำสำเนียงบ็อพอันเป็นภาษาบังคับของแจ๊สร่วมสมัยแล้ว เมื่อก้าวออกสู่ยุทธจักรภายนอกรั้วสถาบัน มินท์ ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในฐานะมือแซ็กประจำวง “The Infinity” อยู่หลายปี เช่นเดียวกันกับการขอเรียน “มาสเตอร์คลาส” กับจอมยุทธทั้งหลาย ทั้งไทยและต่างประเทศ
วันดีคืนดี เมื่อทุกอย่างพร้อม มินท์ กับเพื่อนๆ ก็ตัดสินใจเดินเข้าห้องอัด เพื่อทำงานเดี่ยวชุดแรกในชีวิตจนคลี่คลายออกมาเป็นผลสำเร็จ นับเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจกับความมานะพยายามของนักดนตรีหนุ่มคนนี้ นับจากวันที่เขาตัดสินใจก้าวสู่เส้นทางสายดนตรี
นอกจาก มินท์ ในตำแหน่ง soprano saxophone และ tenor saxophone แล้ว นักดนตรีในวงล้วนเป็นศิษย์เก่าของคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ไม่ว่าจะเป็น ซอล สร้างสรรค์ วัฒนกุล มือเปียโน , อัฐ วารินทร์ ถาธัญ มือเบส และ สำลี สถิตพร สมพงษ์ มือกลอง โดยมี แนท บัณฑิตา ประชามอญ ศิษย์เก่าจากวิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต ที่มาฝากเสียงร้องอันไพเราะไว้ 2 เพลงด้วยกัน ในอัลบั้ม My Diary บรรจุเพลงไว้ 7 แทร็คด้วยกัน
เปิดและปิดท้ายด้วยเพลง Slide อันเป็นบทประพันธ์ของ มินท์ เอง เช่นเดียวกับบทเพลงอื่นๆ ที่มินท์ ฝากฝีมือการแต่งเพลงไว้ ยกเว้น One Note Samba จากปลายปากกาของ อันโตนิโอ คาร์ลอส โจบิม, Time in the Bottle เพลงเก่าของ จิม โครเซ และเพลง นกขมิ้น ของครูพยงค์ มุกดา ที่เขานำมาเรียบเรียงใหม่ ใส่ลายเซ็นต์ของตัวเองเอาไว้อย่างชัดแจ้ง
เปิดตัวด้วย Slide ที่ขับเคลื่อนอย่างเต็มด้วยพลังและความมั่นใจ เริ่มตั้งแต่โมทิฟแรกที่แซ็กนำเสนอ ก่อนจะปล่อยให้ภาคดนตรีสื่อสารสนทนากันอย่างออกรส ทั้งเบส คีย์บอร์ด และกลอง ที่รุกรับกันอย่างเข้าขาและแม่นยำในทิศทาง ถือเป็นเพลงที่ให้พื้นที่อย่างเพียงพอแก่ “ภาคคีตปฏิภาณ” โดยนักดนตรีมีเสรีภาพอย่างเต็มที่ ในการ “ปล่อยไอเดีย” อันพร่างพรูออกมา โดยเฉพาะอิมโพรไวเซชั่นของ มินท์ ที่ทั้งกรู้ฟในชีพจร และรักษาเมโลดิกไลน์ในเวลาเดียวกัน
ราวกับรับรู้ถึงสภาพเต็มอิ่มอย่างถึงขีดสุดของจังหวะเพลงบอสซาโนวา ที่ท่วมท้นสังคมไทยมาช้านาน มินท์ เลือกเพลง One Note Samba มาปรับใหม่ โดยยังคงรักษาไอเดียในการเปลี่ยนเฉดสีสันของคอร์ดผ่านโน้ตตัวเดียวกันตามที่ โจบิม ทำไว้ แต่ปรับกรู้ฟและบรรยากาศรวมของเพลงเสียใหม่ ให้ลงดิ่งลึกลงราวกับการเดินทางในความฝันและจิตใต้สำนึก ไฮไลท์ของเพลงนี้คือช่วงดูเอ็ทระหว่างแซ็กฉบับเซอร์กับเบสฉบับหลอน ที่เลื่อนไหลไปอย่างไร้ที่ติจริงๆ
เช่นเดียวกับกรณีของ Time in the Bottle มินท์ เลือกจะตีความให้แตกต่างจาก “ออริจินัล เวอร์ชั่น” โดยจัดวรรคตอนของเพลงใหม่ให้สอดรับกับไอเดียในแนวทางแจ๊สร่วมสมัยของเขา โดย ซอล ฝากไลน์โซโลอันงดงามไว้ เช่นเดียวกันกับเสียงร้องของ แนท ที่ทิ้งท้ายอย่างน่าประทับใจ
หาก Slide เผยให้เห็นพลังในการขับเคลื่อนเพลง คงต้องบอกว่า The Shadow in the Darkness ยิ่งปะทุความร้อนแรงท่ามกลางความมืดมิดก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่ โมทิฟ และเฮดของเพลง จนถึงช่วงอัพเทมโป เมื่อเบสวอล์คด้วยความเร็วปานกามนิต ไลน์แซ็กของ มินท์ ตามเพื่อนไปติดๆ เช่นเดียวกันกับการควบฉาบและกลองของสำลี ที่ซัพพอร์ททุกคนไว้ โดยมีกรอบทางเดินคอร์ดจากปลายนิ้วที่ ซอลวางทิศทางไว้อย่างเหนียวแน่น ถือเป็นมาสเตอร์พีซของอัลบั้มนี้อย่างยากปฏิเสธ
ทุกอย่างแปรเปลี่ยนไปสู่อีกบรรยากาศหนึ่งใน Nok Khamin ที่ให้ความรู้สึกเวิ้งว้างอยู่ในที สำเนียงโซปราโนของมินท์ พาเราไปสัมผัสตัวตนอีกด้านของนักแซ็กคนนี้ ที่สะท้อนถึง “ดีเอ็นเอความเป็นไทย” อย่างเต็มเปี่ยม โดยมีน้ำเสียงของ แนท บัณฑิตา นักร้องแจ๊สรุ่นใหม่ที่น่าจับตา ทว่าในเพลงนี้ เธอเลือกจะถ่ายทอดในแบบฉบับของการเอื้อนเสียงที่บ่งบอกถึงอิทธิพลของเพลง ไทย(เดิม)ในสายเลือด
ซอล เดี่ยวเปียโนเข้าสู่เพลง Sandglass ก่อนจะเปิดทางให้ มินท์ บรรเลงบทเพลงบัลลาดผ่านเสียงเทเนอร์แซ็กของเขา จนถึงช่วงเบสและกลองเข้าสู่การผสมวง เสียงสแนร์ในเพลงนี้อาจจะฟังดู “อาร์ติฟิเชียล” และไม่เป็นธรรมชาติไปสักหน่อย แต่โดยภาพรวมจัดเป็นอีกหนึ่งเพลงที่น่าจะโดนใจคนฟังหมู่มาก ด้วยแนวทำนองที่คุ้นหูและไม่สลับซับซ้อนจนเกินไป
My Diary ของ มินท์ ภาสกร โมระศิลปิน นับเป็นตัวอย่างชั้นดีของงานเพลงคุณภาพที่ให้ความหวังแก่มิตรรักนักเพลงทุก คนว่า สังคมไทยมิได้อับจนคนเก่งคนดีเสมอไป และผมเชื่อมั่นว่า หลังจาก มินท์ ภาสกร แล้ว ยังมีกองทัพนักดนตรีแจ๊สรุ่นใหม่ที่จะทยอยสร้างงานเพลงออกมาให้พวกเราได้ ชื่นชมกันอย่างต่อเนื่อง
เตรียมตัวเตรียมใจ ให้การสนับสนุนกันได้เลยครับ
Bio - Passakorn "Mint" Morasilpin
Passakorn “ Mint ” Morasilpin, was born in Bangkok Thailand, began a professional musician at age 15 performed with JRP little bigband at Brown Sugar pub and Saxophone pub including many hotel and jazz place. He was graduate Classical Saxophone from The Mahidol College of music for pre-college and received Bachelor degree Jazz Studies at The Silpakorn University with a full scholarship. He studies with Nick Lafleur, Koh Mr.Saxman, Roger Greenberg, Shuichi Komiyama, Pisut Pratheepasean, Jakob Dinesen, Tony Lakatos. He had the opportunity to performed with many Thai artist such as Neung Jakkawal, ETC, Mellow Motif and many other as a sideman also worked with international artist such as Bob James, Inger Marie, Lewis Pragasam, Simone Kopmajer, Ulf Wakenius, Malene Mortensen, Jakob Dinesen, Mokhtar Samba, John Di Martino, have a chance to performed in many country such as USA, Japan, India, Indonesia, Malaysia, Macau involve Thailand
In 2007 participate with Thailand legendary fusion jazz band “ The Infinity ” is the first fusion jazz band in Thailand has been debut the album “ The Infinity 10 ” and “ jazz corners all stars feat. Bob James ”
In 2011 Thailand local YAMAHA Saxophone endorser also made a concert and workshop tour around Bangkok .